เตือนผู้ชาย ระวังความเสี่ยงของมะเร็งในช่องปาก
ส่วนใหญ่มะเร็งช่องปากผู้ชายจะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง คุณสามารถป้องกันได้ ถ้าหากให้ความสำคัญต่อความเสี่ยงต่างๆ รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรและอย่าใกล้ชิดมัน มะเร็งในช่องปากนั้นหากพบในระยะเริ่มต้นจะรักษาไม่ยุ่งยากและประสบความสำเร็จสูง แต่หากคุณเลี่ยงไม่นำมาซึ่งความเสี่ยงต่างๆ ดังกล่าว ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในช่องปากได้ การพบทันตแพทย์ตรวจสุขภาพในช่องปากเป็นประจำจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่เฉพาะเรื่องฟัน และเหงือกเท่านั้น แต่ทันตแพทย์เป็นผู้ที่คุ้นเคยกับอวัยวะส่วนนี้ สามารถตรวจพบสิ่งผิดปกติได้ง่าย เพื่อรู้ก่อนและสามารถป้องกันได้ก่อน
อะไรบ้างที่เป็นความเสี่ยง ?
- บุหรี่ นอกจากมีผลทำให้เกิดมะเร็งปอดถึง 87% แล้ว บุหรี่มีผลทำให้เกิดมะเร็งในหลอดลม ลำคอ และมะเร็งช่องปากด้วย 90% ของมะเร็งในช่องปากพบในคนสูบบุหรี่ ซึ่งคนที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าคนไม่สูบถึง 6 เท่า นอกจากนี้ยังรวมถึงคนที่สูบซิการ์ pipe การเคี้ยวยาเส้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากบุหรี่ สารเคมีที่มีอยู่ในยาเส้น เป็นสารก่อมะเร็งทำให้เกิดมะเร็งบริเวณแก้ม ริมฝีปาก เหงือก ส่วนคนไม่สูบบุหรี่เลย แต่ใกล้ชิดควันของคนที่สูบบุหรี่ อยู่ในสถานที่มีควันบุหรี่มากๆ แล้วสูดเอาควันบุหรี่เหล่านั้น ก็มีสิทธิ์เป็นมะเร็งได้เช่นกัน
- แอลกอฮอล์ ดื่มเหล้า หรือเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ มีโอกาสเสี่ยงต่อมะเร็งในช่องปาก 75-80%มะเร็งช่องปากเกิดขึ้นในคนที่ดื่มจัด และมีโอกาสเป็นมะเร็งมากถึง 6 เท่าของคนที่ไม่ดื่ม แต่ถ้าทั้งดื่มจัด สูบบุหรี่มาก ความเสี่ยงต่อมะเร็งช่องปากจะสูงขึ้นเป็นทวีคูณ
- แสงอัลตร้าไวโอเลต พบว่า 30% ของคนที่เป็นมะเร็งที่ริมฝีปาก เกิดในคนที่มีอาชีพกลางแจ้ง ถูกแสงแดดประจำ วิธีที่จะลดความเสี่ยงคือให้ทา lip palm ที่มีสารป้องกันรังสียูวี ทาครีมกันแดด ทาทั้งหน้าและตัว(ส่วนที่คิดว่าโดนแดด) หรือใส่เสื้อคลุมปิดแขนใส่กางเกงขายาว
- มีสิ่งระคายเคืองในช่องปากอยู่เสมอ เช่น
-ฟันปลอมที่หลวม ใส่แล้วมีแผลในช่องปาก เป็นเวลานานๆ ไม่หาย
-มีฟันผุ คม บาดลิ้น เวลาเคี้ยวอาหาร หรือพูด
-ฟันปลอมที่แตกหักแล้วขูดช่องปากอยู่เสมอ - อาหารที่มีไขมันสูง เนื้อแดง เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง หากเราได้รับประทานผัก ผลไม้ที่มีกากใยมากๆ ก็จะลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเช่นกัน
- อายุ มะเร็งในช่องปาก มีสถิติพบมากในคนอายุมากขึ้น โดยเฉพาะอายุ 35 ปีขึ้นไป
หากมีสิ่งผิดปกติดังต่อไปนี้ ให้รีบปรึกษาทันตแพทย์หรือแพทย์ประจำตัวทันที
- มีสีที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนในช่องปาก เช่น มีสีแดงจัด ฝ้าขาวตามกระพุ้งแก้ม
- มีลักษณะเนื้อหนาตัวขึ้น หรือมีผิวหยาบๆ
- เป็นแผลในช่องปาก เลือดไหลง่าย
- พูด กลืน ขยับลิ้นลำบาก
- มีกลิ่นปาก
- ฟันโยก เก ขากรรไกรบวม
- เป็นแผลในช่องปากเป็นเวลานานๆ ไม่หาย นอกจากในช่องปาก อาการภายนอกที่ร่วมกับมะเร็งที่น่าสังเกต คือ น้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ มีก้อนคลำได้บริเวณลำคอ
อาหารที่ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งช่องปากที่เด่นชัดที่สุด คือ "ชาเขียว" อ.นพ.วาสซิลิคิ ปาปาดิมิตราโกเปาโล (Vassiliki Papadimitrakopoulo, M.D.) ได้ทำผลการศึกษาพบ ว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดชาเขียวมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระยะเป็นมะเร็งชัดเจนน้อยกว่า
แต่ทั้งนี้ ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่เข้ามามาก ชาเขียวเอง ก็คงเอาไม่อยู่ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว
ว่าแต่คุณผู้ชาย คุณทำได้หรือไม่??
ที่มา: http://lifestyle.th.msn.com/health/dental/article.aspx?cp-documentid=3546854