จอมพลหนังเหนียว ! จอมพล ป. พิบูลสงคราม
จอมพลหนังเหนียว จอมพล ป. พิบูลสงคราม
( หนังสือน่าอ่าน จอมพลหนังเหนียว จอมพล ป. พิบูลสงคราม - กบฏแมนฮัตตัน ( เรื่องราวเกี่ยวโยง ) )
จอมพลป.ท่านมีชื่อตัวว่าแปลก ชีวิตท่านก็เผชิญอะไรต่อมิอะไรที่แปลกไปจากนายกรัฐมนตรีทั้งหมดของไทยสมชื่อ
ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเก้าอี้ได้ยาวนานที่สุด ๒ ช่วงด้วยกัน ทั้งก่อนสงครามโลกและหลังสงครามโลก ซ้ำยังคั่นกลางระหว่างสองช่วงนี้ด้วยฐานะอาชญากรสงครามเสียอีก
นอกจากนี้ท่านยังเป็นนายกฯคนเดียวที่ดวงแข็ง หนังเหนียวคงกระพันชาตรี ถูกลอบสังหารหลากหลายต่างกรรมต่างวาระ คนนั้นยิง คนนี้ยิง คนโน้นวางยาพิษ แต่ท่านก็รอดมาได้ทุกครั้ง
คนที่ถูกกล่าวหาว่าสังหารท่านต่างหากที่ไม่เคยรอด คือบางคนก็ไม่รอดคุก และบางคนก็ไม่รอดหลักประหาร
เรื่องจอมพลป. ถูกลอบสังหาร ถูกเอ่ยถึงสั้นๆในกระทู้ก่อนนี้ เชิญคลิกอ่านได้ในกระทู้ ม.ร.ว. นิมิตรมงคล นวรัตน : ชีวิตและงาน
กับ กระทู้ ชะตากรรมของพระยาทรงสุรเดช หนึ่งในสี่ทหารเสือคณะราษฎร์ แต่ว่ายังไม่มีกระทู้ที่รวบรวมเรื่องนี้โดยตรง จึงขอยกมาเล่าสู่กันฟังในกระทู้นี้นะคะ
ถ้าท่านใดมีความรู้พอจะขยายความ หรือเพิ่มเติม หรืออยากซักถามสิ่งใด ก็ขอเชิญร่วมวง ด้วยความเต็มใจ
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จอมพลป.ยังเป็นเพียงนายทหารหนุ่มชั้นนายพัน หลวงพิบูลสงคราม ไม่ได้เป็นแกนนำในตอนนั้น แต่ขึ้นสู่อำนาจอย่างรวดเร็วในปีต่อมา เมื่อเกิดกบฏบวรเดช ได้รับความไว้วางใจจากพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนาให้ปราบปรามกบฏ หลวงพิบูลก็ทำได้สำเร็จอย่างดี
เมื่อจบกบฏบวรเดช ดวงของหลวงพิบูลสงครามพุ่งแรงขึ้นกว่าใครๆในรุ่นเดียวกันทั้งหมด ได้เลื่อนยศเป็นนายพันเอก ก้าวพรวดเดียวขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2477 ท่านไปทำหน้าที่มอบถ้วยรางวัลให้แก่ทีมชนะเลิศฟุตบอลทหารที่สนามหลวง เสร็จงานแล้ว ก็เดินกลับมาขึ้นรถท่ามกลางผู้ติดตามและองครักษ์คุ้มกันหลายต่อหลายคนตามแบบของคนใหญ่โต
จู่ๆโดยไม่มีใครคาดคิด ก็มีชายคนหนึ่งพรวดพราดแหวกคนเข้ามา ลั่นกระสุน 2 นัดใส่ท่านรัฐมนตรีผู้ก้าวขึ้นนั่งในรถ
ในช่วงนาทีนั้น หลวงพิบูลฯกำลังเอี้ยวตัวหยิบกระบี่ออกส่งให้พ.ต.หลวงสุนาวินวิวัฒน์ เลขานุการ หลวงสุนาวินได้ยินเสียงปืนก็เหลียวไปดู เห็นมือปืนถือปืนมีควันกระจายอยู่ที่ปากกระบอก กำลังยกขึ้นจะลั่นนัดที่ 3 เข้าใส่รัฐมนตรีอีก หลวงสุนาวินก็โดดเข้าปัดปืนจนกระสุนพลาดเป้าหมายไป
พร้อมกันนั้นผู้ที่แวดล้อมอยู่ก็กรูกันเข้ามาล็อคตัวมือปืนไว้ทัน ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมถูกส่งตัวด่วนไปโรงพยาบาลทหารบกที่ถนนพญาไท แพทย์ตรวจพบว่ากระสุนนัดหนึ่งทะลุแก้มซ้ายออกทางต้นคอ อีกนัดเข้าไหล่ขวาด้านหน้าออกทางด้านหลัง แต่ไม่ถูกที่สำคัญทั้ง 2 นัด
ผลจากการลอบสังหาร หลวงพิบูลฯก็ต้องนอนในโรงพยาบาลอยู่ 1 เดือน แต่ว่าปลอดภัย
มือปืนที่บุกเข้ามายิงรัฐมนตรีกลาโหมอย่างอุกอาจท่ามกลางผู้คนมากมายนั้นเป็นใคร?
เขาชื่อนายพุ่ม ทับสายทอง เป็นนักเลง ชอบดื่มเหล้า ใครอยากจะให้ตีหัวใครก็ขอเหล้าขวดเดียว แล้วเขาก็จะตีหัวให้ หรือชกหน้าให้ตามต้องการ
ท่านนวรัตนอธิบายไว้ในกระทู้ ชะตากรรมของพระยาทรงสุรเดช ถึงที่มาของคนร้ายว่า
นายพุ่มถ้าไม่บ้าอย่างหนัก ก็คงจะมีเหล้าย้อมใจจนได้ที่ จึงกล้ารับจ๊อบบุกเข้าไปยิงรัฐมนตรีกลาโหม ตอนไปงานที่สนามหลวงซึ่งผู้คนแห่ไปดูกีฬากันเต็มสนาม และยิงท่ามกลางบอดี้การ์ดแวดล้อมรอบด้าน ไม่ยักนึกว่าต่อให้หลวงพิบูลตายไปตอนนั้น นายพุ่มจะหนีรอดไปได้ด้วยวิธีไหน
ข้อความในประโยคสุดท้ายที่เขียนโดย อ.พิบุลสงคราม หรือ พลตรีอนันต์ พิบูลสงคราม
บุตรชายของท่านซึ่งเขียนเมื่อ๔๐ปีให้หลัง ที่จบแบบว่า ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่
รูปนี้ถ่ายตอนที่ท่านยังมีสีหน้างงๆอยู่ว่า ไอ้บ้าคนนั้นมายิงข้าพเจ้าด้วยเรื่องอันใด
อ่านประวัตินายพุ่มแล้ว แม้จะติดคุกถึง๗ครั้ง แต่นอกจากครั้งแรกที่ติดนานหน่อยแล้ว ที่เหลือก็ดูว่าเป็นคดีเล็กคดีน้อย ไม่ใช่เป็นมือปืนระดับพระกาฬเช่นที่คนสมัยหลังๆเขาจ้างมายิงคู่แข่งกัน
จึงเป็นไปไม่ได้ที่ใครก็ตามที่มีมันสมอง จะไปจ้างคนระดับนี้ไปยิงคนระดับหลวงพิบูล ซึ่งขณะนั้นแม้จะเป็นเพียงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ใครๆก็รู้ว่าคนนี้แหละคือผู้ที่มีอำนาจตัวจริงในแผ่นดิน
ผมเชื่อว่าคนอย่างนายพุ่มต้องเป็นโรคจิต หรืออย่างน้อยก็สติไม่ดี ที่อยู่ๆก็เอาปืนไปยิงรัฐมนตรีโดยไม่คิดว่าตัวเองจะรอดออกมาใช้เงิน(ค่าจ้างยิง)ได้ แต่กระทำไป อย่างที่เจ้าตัวสารภาพ คือแก้แค้นแทนน้องชายที่เป็นโจรแล้วถูกตำรวจตัดหัว โดยนึกแบบคนบ้าว่าหลวงพิบูลคนดังเป็นคนสั่งการ ซึ่งตอนแรกๆทุกคนก็เชื่ออย่างนี้ แม้หลวงพิบูลก็ปลงๆไปแล้วว่าเป็นความซวยของตน
แต่วันดีคืนดีสันติบาลเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าแถวท้องถิ่นที่พำนักของนายพุ่มมีข้าราชการสายเจ้าอยู่ จึงไปจับบุคคลเหล่านั้นมาสอบสวนแล้วตั้งข้อหาส่งฟ้องว่าเป็นขบวนการที่ว่าจ้างนายพุ่มไปยิงบุคคลสำคัญของรัฐบาล ศาลอาญาได้พิเคราะห์ตามหลักฐานของตำรวจแล้วตัดสินประหารชีวิตไป๑ แต่ปรานีลดโทษลงมาเหลือจำคุกตลอดชีวิต นายพุ่มเองโดนไป๒๐ปีเท่านั้น แต่ติดจริงๆเท่าไหร่ ออกจากคุกยังเป็นๆหรือเขาหามออกมา อันนี้ไม่ปรากฏเรื่องราวไว้ให้ติดตามกันเลย
แต่เป็นอันว่า สันติบาลได้จบโครงการทดลองกับหนูตะเภา ต่อไปจะนำไปปรับปรุงให้เนียนยิ่งขึ้นสำหรับจะฆ่าแพะทั้งฝูงต่อไป