การใช้ศรีษะโหม่งบอล และการสูญเสียความจำ
นักฟุตบอลที่ใช้หัวในการโหม่งบอลอาจจะใช้หัวของเขาได้ในการทำคะแนนก็จริง แต่การใช้หัวบ่อยๆในการโหม่งบอลอาจจะทำให้คะแนนบางอย่างเริ่มแย่ลง (ความจำ)
ในการวิจัยครั้งนี้ นักฟุตบอลที่ใช้หัวในการโหม่งบอลจำนวนมากแสดงถึงผลทดสอบความจำที่แย่ลงกว่านักฟุตบอลที่ไม่ได้ใช้หัวในการโหม่งบอลบ่อยๆ ในการศึกษาเดียวกันนี้พบอีกด้วยว่า นักฟุตบอลที่ใช้หัวในการโหม่งบอลบ่อยมีการเปลี่ยนแปลงของสมองส่วนเนื้อเยื่อสีขาว เนื้อเยื่อชนิดนี้ประกอบไปด้วยเส้นใยประสาท และสารสีขาวที่เคลือบป้องกัน เส้นใยนี้ใช้ส่งสัญญาณต่างๆภายในสมอง
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นอะไรที่บอบบางมาก” Inga Koerte พูดใน Science News Koerte เป็นนักวิทยาศาสตร์ฉายรังสี จาก Harvard Medical School and Brigham and Women’s Hospital ใน บอสตัน นักวิทยาศาสตร์ฉายรังสี ใช้รังสีเอ็กซ์และเทคโนโลยีการแสกนอื่นๆในการดูสมองและอวัยวะภายใน การใช้เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้หาปัญหาและวินิจฉัยโรคต่างๆได้ Koerte ไม่ได้มีส่วนร่วมกับงานวิจัยในครั้งนี้แต่เขาได้ศึกษาเกี่ยวกับผลของฟุตบอลต่อสมองมาก่อน
ข้อมูลจากการศึกษาใหม่ในครั้งนี้แนะว่า แม้ว่าการถูกกระแทกที่หัวไม่ได้เป็นสาเหตุของการสั่นสะเทือนของสมองที่สามารถส่งผลต่อการคิดและทำร้ายสมอง การสั่นสะเทือนนี้เป็นการกระแทกในทันทีต่อศรีษะซึ่งอาจจะทำให้คนเกิดอาการหมดสติหรือเกิดอาการมึนงง
“การโหม่งบอลด้วยศรีษะไม่ได้เป็นสาเหตุของการสั่นสะเทือนต่อสมองทุกๆครั้งไป ถึงแม้ว่าลูกฟุตบอลจะเคลื่อนที่เร็วมากประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง” Michael Lipton บอกไว้กับ Science News ซึ่ง Lipton เป็นนักประสาทวิทยา หรือ นักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับสมอง เขาทำการศึกษาในครั้งนี้ในส่วนของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสั่นสะเทือนของสมองที่ มหาวิทยาลัย Einstein College of Medicine ใน นิวยอร์ก
Lipton และลูกทีมของเขาได้ทำการทดสอบ อาสาสมัครนักฟุตบอลทั้ง 37 คน ประกอบด้วย อาสาสมัครผู้ชายจำนวน 28 คน และผู้หญิงจำนวน 9 คน นักฟุตบอลรายงานถึงจำนวนของเกมส์ และการฝึกฝนของพวกเขาในปีก่อนว่าเป็นอย่างไร พวกเขาประเมินถึงจำนวนครั้งของอาสาสมัครที่ใช้หัวในการโหม่งบอลด้วย ส่วนมากเกือบจะร้อยกว่าครั้ง แม้ว่าบางรายจะเกือบถึง 1000 ครั้ง
นักวิทยาศาสตร์ให้นักฟุตบอลทั้งหมดทดสอบเรื่องความจำ โดยเฉลี่ย นักฟุตบอลเก้าคนที่ใช้หัวในการโหม่งฟุตบอลมากๆ จะมีคะแนนการทดสอบที่แย่กว่า นักฟุตบอลเก้าคนที่มีการใช้หัวโหม่งฟุตบอลที่น้อยกว่า นักวิจัยได้ประเมินว่า การใช้หัวโหม่งฟุตบอลมากกว่า 1800 ครั้งในหนึ่งปีจะทำให้เกิดการสูญเสียในเรื่องของความจำ
เพื่อมองหาโครงสร้างของสมองที่เปลี่ยนแปลงไป นักวิจัยได้ใช้เครื่อง MRI (magnetic resonance imaging) เครื่อง MRI ใช้สนามแม่เหล็กในการถ่ายรูปสมอง และแสกนสมอง การแสกนนี้แสดงให้เห็นถึง นักฟุตบอลที่ใช้หัวในการโหม่งบอลมากจะมีการเปลี่ยนแปลงของสมองส่วนเนื้อเยื่อสีขาวมาก นักวิจัยพบว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นบ่อยในสมองส่วนหลัง ซึ่งนั่นไกลจากส่วนของกะโหลก (ด้านหน้า) ที่ใช้ในการโหม่งบอลเป็นประจำ
Lipton พูดว่า “อาจจะเป็นเพราะในระหว่างที่โหม่งบอล สมองได้ถูกกดเข้ากับกะโหลกส่วนหน้า และสะท้อนไปถึงสมองส่วนหลัง” และเขาอธิบายต่อว่า “เมื่อหัวได้รับการกระทบ สมองอาจจะกระทบกระเทือนโดยการเคลื่อนที่ไปกลับ”